นางสาวอัญชลี ปัญญากวาว เกษตรจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สภาพอากาศหนาวเย็นมีหมอกลงในตอนเช้า กลางวันร้อน และมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ เกษตรจังหวัดแพร่จึงขอเตือนเกษตรกรผู้ปลูกพืชตระกูลส้ม เช่น มะนาว มะกรูด ส้มโอ และส้มเขียวหวาน ในระยะต้นแตกยอดอ่อน ติดผลอ่อน จนถึงส้มได้ขนาด เบอร์ 4 ควรเตรียมรับมือกับเพลี้ยไก่แจ้ส้ม

เพลี้ยไก่แจ้ส้ม ตัวอ่อนและตัวเต็มวัย จะดูดกินน้ำเลี้ยงจากตาและยอดอ่อนต้นพืช สำหรับตัวอ่อนขณะดูดกินจะกลั่นสารสีขาวมีลักษณะเป็นเส้นด้าย และชักนำให้เกิดราดำ ยอดที่ถูกทำลายจะหงิกงอ และแห้งเหี่ยว ถ้าการทำลายถึงขั้นรุนแรงทำให้ใบร่วงติดผลน้อยหรือไม่ติดผลเลย นอกจากทำลายยอดอ่อนโดยตรงแล้ว เพลี้ยไก่แจ้ส้มยังเป็นหาพะถ่ายทอดโรคใบเหลืองต้นโทรม หรือกรีนนิ่ง ซึ่งเป็นโรคที่สำคัญที่สุดของส้มเขียวหวาน ทำให้โรคนี้แพร่กระจายไปเกือบทุกแหล่งที่ปลูกส้ม เป็นสาเหตุให้ต้นส้มทรุดโทรมและตายในที่สุด

สำหรับ แนวทางป้องกัน แก้ไข ในระยะที่ส้มแตกตาและยอดอ่อน ควรหมั่นสำรวจเพลี้ยไก่แจ้ส้มทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัย โดยการสุ่ม 5 ยอดต่อต้น จำนวน 10 - 20 ต้นต่อสวน 
ในแหล่งที่มีการระบาดของโรคใบเหลืองต้นโทรม เมื่อพบเพลี้ยไก่แจ้ส้มต้องทำการป้องกันกำจัดทันที โดยการพ่นสารฆ่าแมลงที่แนะนำ ได้แก่ อิมิดาโคลพริด 70% ดับเบิ้ลยูจี อัตรา 2 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ไดโนทีฟูแรน 10% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 4 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ โคลไทอะนิดิน 16% เอสจี อัตรา 2 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน 2.5% อีซี อัตรา 15มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร

ผู้สื่อข่าว : พิรุณพร แสงสร้อย ทีมข่าว สวท.แพร่
บรรณาธิการ : กัมปนาท พอจิต ผอ.สวท.แพร่
แหล่งที่มา : จังหวัดแพร่